สำนักงบประมาณขอเรียนว่า ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๒ สิงหาคม ๒๕๓๒ แจ้งตามหนังสือสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ที่ นร ๐๒๐๓/ว ๑๐๙ ลงวันที่ ๒๔ สิงหาคม ๒๕๓๒ กำหนดให้งานจ้างเหมาก่อสร้างของรัฐวิสาหกิจ หน่วยงานตามกฎหมายว่าด้วยการบริหารราชการส่วนท้องถิ่น หน่วยงานอื่นที่มีกฎหมายบัญญัติให้มีฐานะเป็นราชการบริหารส่วนท้องถิ่น หรือหน่วยงานอื่นของรัฐ ก็ให้นำเงื่อนไข หลักเกณฑ์ประเภทงานก่อสร้าง สูตรและวิธีการคำนวณที่ใช้กับสัญญาแบบปรับราคาได้ไปใช้ด้วย ในกรณีที่จำเป็นต้องเพิ่มเงิน ให้ใช้เงินจากงบประมาณของรัฐวิสาหกิจ หน่วยงานตามกฎหมายว่าด้วยการบริหารราชการส่วนท้องถิ่น หน่วยงานอื่นที่มีกฎหมายบัญญัติให้มีฐานะเป็นราชการบริหารส่วนท้องถิ่น หรือหน่วยงานอื่นของรัฐนั้นเองหรือจ่ายตามสัดส่วนแหล่งที่มาของเงินค่าก่อสร้างนั้น หรือตามที่สำนักงบประมาณพิจารณาวินิจฉัยแล้วแต่กรณี
ดังนั้น ในกรณีที่หารือดังกล่าวข้างต้น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ได้รับเงินอุดหนุนเฉพาะกิจโครงการก่อสร้างแล้ว ได้ประกาศประกวดราคาและทำสัญญาแบบปรับราคาได้ (ค่า K) เมื่อผู้รับจ้างได้เรียกร้องเงินเพิ่มค่างานก่อสร้างดังกล่าว แยกเป็น
๑. กรณีสัญญาจ้างมีวงเงินไม่เกิน ๕๐ ล้านบาท ตามหนังสือสำนักงบประมาณ ที่ นร ๐๔๐๗/ว ๑๕๐ ลงวันที่ ๒๔ สิงหาคม ๒๕๔๔ หน่วยงานภาครัฐเจ้าของสัญญาจ้าง ต้องตรวจสอบและอนุมัติการจ่ายเงินเพิ่มค่างานก่อสร้างโดยใช้เงินงบประมาณเหลือจ่าย หรือเงินนอกงบประมาณ หรือเงินนอกงบประมาณ หรือเงินอื่นใดที่อาจนำมาจ่ายให้กับผู้รับจ้างได้ และหากไม่มีเงินดังกล่าวแล้วให้ขอใช้จากเงินงบกลาง รายการเงินชดเชยค่างานสิ่งก่อสร้าง จากสำนักงบประมาณ
๒. กรณีสัญญาจ้างที่มีวงเงินเกิน ๕๐ ล้านบาท หน่วยงานภาครัฐเจ้าของสัญญาจ้างได้ตรวจสอบการจ่ายเงินเพิ่มให้กับผู้รับจ้างแล้ว ต้องส่งให้สำนักงบประมาณตรวจสอบและเห็นชอบก่อนจ่ายเงินเพิ่มดังกล่าว พร้อมระบุแหล่งที่มาของเงินค่าก่อสร้าง และแหล่งเงินที่จะนำมาจ่ายเงินเพิ่มให้กับผู้รับจ้างด้วย
เว็บไซต์สำนักงบประมาณ ขออนุญาตใช้คุ๊กกี้เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอเนื้อหาที่ดีให้กับท่าน ทั้งนี้ ท่านมั่นใจได้ว่าเราจะดูและรักษาความปลอดภัยข้อมูลของท่านเป็นอย่างดีเรียนรู้เพิ่มเติม ยอมรับ